ยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) คือ
ยาที่ใช้ฆ่าหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย เช่น ยากลุ่มเพนนิซิลิน (Penicillins) ยากลุ่มเตตร้าไซคลิน (Tetracyclines) เป็นต้น
การใช้ยาปฏิชีวนะในอุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์
– มีวัตถุประสงค์เพื่อ การรักษา, การป้องกันโรค และ เร่งการเจริญเติบโต
– หากใช้อย่างไม่ถูกต้อง หรือ ไม่หยุดยาตามระยะเวลาที่กำหนด อาจทำให้เกิดยาปฏิชีวนะตกค้าง (antibiotic residues) ในเนื้อเยื่อสัตว์
– อาหารที่มักพบยาปฏิชีวนะตกค้าง ได้แก่ เนื้อสัตว์ ปลา อาหารทะเล นม ไข่และน้ำผึ้ง
อันตรายต่อผู้บริโภค ที่เกิดจากยาปฏิชีวนะตกค้าง
- เกิดการแพ้ยา
- เกิดเชื้อดื้อยา เนื่องจากแบคทีเรียเมื่อได้รับยาปฏิชีวนะเป็นระยะเวลานานจะพัฒนายีนส์ต่อต้านยาชนิดนั้นๆ เชื้อดื้อยาที่เกิดขึ้นในสัตว์จะถูกส่งผ่านไปยังคนได้ โดยการบริโภคเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ การสัมผัสกับสัตว์โดยเฉพาะผู้เลี้ยงสัตว์ และการรับเชื้อจากสิ่งแวดล้อม เช่น ในแหล่งน้ำและดิน
แนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหายาปฏิชีวนะตกค้าง
- การใช้ยาปฏิชีวนะในการเลี้ยงสัตว์ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
- เว้นระยะหยุดยาก่อนฆ่าสัตว์ เพื่อป้องกันยาปฏิชีวนะตกค้างเกินปริมาณสูงสุดที่อนุญาตให้ตรวจพบได้ (Maximum Residue Limit, MRL)
- ตรวจหายาปฏิชีวนะตกค้างด้วยวิธีการที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ ในสัตว์ก่อนการฆ่าหรือจับสัตว์มาบริโภค
Premi®Test
- เป็นการตรวจเบื้องต้นด้วยหลักการ Microbial inhibition test
- ตรวจยาปฏิชีวนะในกลุ่ม β-lactams* Cephalosporines* Macrolides* Tetracyclines* Sulfonamides* Aminoglycosides Quinolones Polypeptides และ Ionophores
- ใช้เวลาในการตรวจเพียง 4 ชั่วโมง
- เหมาะสำหรับ เกษตรกร โรงเชือด อุตสาหกรรมแปรรูปเนื้อสัตว์ ห้องปฏิบัติการทั่วไป
- ชุดทดสอบได้รับการรับรอง (*) จาก AOAC-RI – 060601 และ AFNOR – VALIDATION NF (RBP 31/02-04/11)
ข้อมูลสินค้า/บทความที่เกี่ยวข้อง
Download บทความเรื่องนี้ (PDF)
ข้อมูลสินค้า Premi®Test
- รายละเอียด PremiTest
- Premi®Test (R-biopharm)
บทความที่เกี่ยวข้อง
- อาหาร (ไม่) ปลอดภัย … ผลจากการใช้ยาปฏิชีวนะในสัตว์ (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา)
-
Antibiotic residues: How contaminated is our food? (R-biopharm)